เหตุผลดี ๆ ที่คุณควรมีช่อง Youtube

Youtube
Youtube

ทุกวันนี้เมื่อเราพูดว่ายูทูป คงไม่มีใครไม่รู้จัก และเรามักจะได้ยินว่ามีคนทำ Youtube ได้เงินเท่านั้น มีรายได้เท่านี้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง เพราะวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่บนโลก ใช้โทรศัพท์ที่เรียกว่าสมาร์ทโฟนกับแบบบ้าคลั่ง ซึ่งต้องขอใช้คำว่าบ้าคลั่งจริง ๆ เพราะหากดูสถิติจากสำนักต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมสถิติจะเห็นว่าการใช้สมาร์ทโฟน (Smartphone) ต่อวันนั้นมีจำนวนที่สูงมาก

เมื่อผู้คนใช้ชีวิตอยู่กับโทรศัพท์ อาจจะใช้ในการทำงานก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่าใช้เพื่อความบันเทิงมากกว่าการทำงาน สิ่งหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นผลมาจากการที่คนยุกต์ 90 นั้น ถูกข้อจำกัดของทีวีบีบคั้น เช่น หากต้องการดูละครที่ชื่นชอบต้องรอวันนั้นวันนี้ ที่สำคัญคือพลาดแล้วพลาดเลย จะดูย้อนหลังไม่ได้ การมาของสมาร์ทโฟนทำให้ข้อจำกัดเหล่านี้ถูกตัดออกไปทันที วันนี้อยากดูอะไรที่ชอบทำได้เลย อยากดูย้อนหลังทำได้เลย อารมณ์เหมือนกับเด็กที่เคยอยู่ในกรอบระเบียบว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ วันหนึ่งเมื่อมีอิสระก็จะเกิดอาการดีใจ และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

หรือแม้แต่เด็ก ๆ สมัยนี้ที่เราเรียกกันว่า GenX, GenZ เขาเติบโตมากับการถูกเลี้ยงด้วยสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ เป็นอะไรที่เราต้องยอมรับ วันนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็จะเห็นเด็ก ๆ ก้มหน้าก้มตาอยู่กับสมาร์ทโฟน ราวกับว่าใช้ชีวิตอยู่บนนั้น เด็กเล็ก ๆ ดูการ์ตูน เด็กโตเล่นเกมส์ วัยรุ่นติดโซเชียล และเด็กทุกวัยดูวีดีโอจาก Youtube และ Tiktok จากเหตุผลทั้งหมดที่ได้กล่าวมา จะเห็นว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้คนใช้ชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟน และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการดูวีดีโอ

อ่านบทความนี้มาหลายย่อหน้ายังไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมต้องมีช่อง Youtube ผมอยากให้คุณค่อย ๆ อ่านต่อไปเรื่อย ๆ ครับ เราต้องค่อยๆจูน และทำความเข้าใจกัน

ในการทำธุรกิจนั้น ส่วนประกอบที่มีความสำคัญของการทำธุรกิจก็คือการประชาสัมพันธ์ และการทำโฆษณา ในอดีตจะเห็นได้ว่าการทำโฆษณานั้นอยู่บนจอทีวี อยู่บนวิทยุ อยู่บนหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีราคาแพงมาก ลงโฆษณาทีวินาทีละเป็นแสนเป็นล้านบาท แต่วันนี้โฆณาส่วนใหญ่อยู่บนสมาร์ทโฟน และมีราคาย่อมเยากว่ามากมีงบประมาณ 500 บาท ก็ลงโฆษณาได้ ทดสอบตลาดได้ จะเห็นว่าแตกต่างกันมาก ๆ

บริษัทที่มีระบบโฆษณาบนออนไลน์นั้นมีหลายเจ้ามาก ๆ แต่ที่ได้รับความนิยมาก และผู้คนรู้จักก็คือ Google, Facebook และ TikTok เมื่อเจ้าของธุรกิจเลือกที่จะประชาสัมพันธ์แบบออนไลน์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกว่าจะลงโฆษณากับใคร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของธุรกิจนั้น ๆ ผมจะไม่ขออธิบายยืนยาวในส่วนของการทำโฆษณา เพราะต้องอธิบายอีกยาวมาก แค่อยากให้รับรู้ว่าเมื่อมีคนทำธุรกิจลงโฆษณาแล้ว นี่คือแหล่งรายได้ของ Google, Facebook และ TikTok

เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ารายได้ออนไลน์นั้นจะประกอบไปด้วยกลุ่มบุคคล 4 กลุ่ม

  • เจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจทั่วไป แล้วต้องการลงโษณาออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการของตนเอง
  • Google, Facebook, TikTok เจ้าของระบบโฆษณา ขอใช้คำนี้ว่าเพราะว่าจะเข้าใจได้ง่ายที่สุด
  • ผู้ผลิตเนื้อหา ที่เราเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Content
  • ผู้รับชมเนื้อหา ก็คือผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้สร้าง Content อย่างจริงจัง เพียงแค่ใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น

กลไกการสร้างรายได้ออนไลน์

ส่วนที่กำลังจะเขียนนี้ผมจะโฟกัสรายได้ที่เป็นรูปแบบของการโฆษณาเท่านั้น เพราะรายได้ส่วนนี้คือ Passive Income ที่แท้จริง นั่นคือเป็นรายได้อย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าเราจะกำลังนอนหลับอยู่ก็ตาม

รายได้ออนไลน์นั้นจะมีจุดเริ่มต้นจาก Google, Facebook, TikTok นั้นสร้างระบบขึ้อนมาซึ่งเราก็ใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ ระบบเหล่านี้เมื่อมีคนใช้งานเป็นจำนวนมาก ก็เหมือนกับในอดีตที่เราดูทีวี ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์กันเป็นจำนวนมาก ย่อมเป็นที่หมายของของเจ้าของธุรกิจที่ต้องการนำโฆณามาลงเพื่อให้ผู้คนมองเห็นโฆษณา และซื้อสินค้าของตนเอง

เมื่อเจ้าของธุรกิจนำโฆษณามาลงแล้ว ตัวผู้ให้บริการอย่าง Google, Facebook และ TikTok ต้องการกระตุ้นให้มีการมองเห็นโฆษณาเพื่อให้โฆษณานั้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของผู้ลงโฆษณา จึงต้องหาตัวช่วยนั่นก็คือผู้สร้างเนื้อหา แน่นอนว่าผู้สร้างเนื้อหานี้ก็คือ คนที่ทำช่อง Youtube, คนที่ทำ Fanpage หรือแม้แต่คนที่ทำช่องบน TikTok

ผู้สร้างเนื้อหานี้จะได้รับส่วนแบ่งค่าโฆษณาจากเจ้าของระบบโฆษณา (Google, Facebook, TikTok) ซึ่งจะมีรูปแบบการคิดค่าตอบแทนนี้ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งต้องอธิบายกันอีกหลายหน้า เอาเป็นว่าคนทำคลิปจะได้ค่าตอบแทนจากเจ้าของระบบโฆษณาก็แล้วกันครับ ตรงนี้น่าจะทำให้ทราบแล้วว่าคนที่ทำช่องบน Youtube นั้นมีรายได้มากจากไหน ซึ่งต้องบอกว่ารายได้จากช่องทางนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอหากมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก แต่จริง Yotube นั้นสามารถสร้างรายได้ ๆ อีกหลายช่องทาง วันหน้ามีโอกาสจะมาเขียนแนะนำเพิ่มในส่วนนี้ให้ครับ

ผู้ใช้งานคือกลไกหลักของระบบ เพราะผู้ใช้งานคือลูกค้า และผู้จ่ายเงินตัวจริง ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้มากขึ้นดังนี้ เมื่อเราดู Youtube เราเห็นโฆษณา เราอาจจะนั่งดูโฆษณา หรือคลิกโฆษณาด้วยความสนใจในสินค้า แล้วเราไปซื้อสินค้า ทำให้เราได้สินค้า ผู้ลงโฆษณาซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจได้ขายสินค้า การที่ผู้ขายลงโฆษณาทำให้ Youtube ได้เงินค่าโฆษณาจากผู้ขายสินค้า แล้วไปแบ่งให้กับผู้สร้างเนื้อหาที่เป็นเจ้าของช่อง Youtube ซึ่งวีดีโอที่ลงใน Youtube นั้นจะอยู่นานมากหลายปี ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ากี่ปีจะถูกลบออก แต่ก็ต้องบอกว่านานมาก ๆ วีดีโอเหล่านี้ยังคงทำงาน และทำเงินให้กับระบบต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมผู้ที่ทำช่องกับ Youtube จะมีรายได้ตลอดแม้ว่าจะนอนอยู่ก็ตาม

เพราะคนที่ใช้ Youtube นั้นมีอยู่ทั่วโลก เรียกได้ว่าใช้งานกันตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ เมื่ออ่านมาถึงต้องนี้แล้ว คุณน่าจะทราบถึงเหตุผลดี ๆ ที่เราควรมีช่อง Youtube เพราะจะสร้างรายได้แบบ Passive Income แม้ยามหลับไหลเราก็ยังมีรายได้นั่นเอง ติดตามเรื่องราว ดี ๆ แบบนี้ได้ใหม่ในตอนหน้าซึ่งจะช่วยให้คุณมีรายได้ออนไลน์ หากคุณอ่าน ทำความเข้าใจ และลงมือทำอย่างจริงจังครับ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับ “เหตุผลดี ๆ ที่คุณควรมีช่อง Youtube

  1. Pingback: ทำไมคนถึงอยากเป็นยูทูปเบอร์ - Ninetechno.comNinetechno.com

  2. Pingback: อยากเป็นยูทูปเบอร์ต้องเรียนอะไร - Ninetechno.comNinetechno.com

ใส่ความเห็น